วัดป่าสัก

วัดป่าสัก เป็นวัดร้าง ตั้งอยู่นอกเมืองเชียงแสนด้านทิศตะวันตก โดยอยู่ติดกับคูเมือง กำแพงเมือง ประตูเชียงแสน หรือประตูป่าสัก และป้อมประตูเชียงแสน กลุ่มโบราณสถานของวัดป่าสักมีพื้นที่กว้างขวาง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 16 ไร่ ประกอบด้วยโบราณสถานต่าง ๆ จำนวน 22 แห่ง วัดป่าสัก ปรากฏหลักฐานใน “พงศาวดารเมืองเงินยางเชียงแสน” เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุชิ้นส่วนกระดูกตาตุ่มข้างขวา โดยสร้างขึ้นในสมัยพระพญาแสนภู (หลานพญามังราย) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์มังราย ช่วงปี พ.ศ. 1875 ตามที่ปรากฏหลักฐานในวรรณกรรมพุทธศาสนาภาษาบาลี ชินกาลมาลีปกรณ์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงสั่งให้ปลูกต้นสักทั่วบริเวณวัดจำนวนกว่า 300 ต้น จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘วัดป่าสัก’
____
วัดป่าสัก ถือเป็นหนึ่งในวัดภาคเหนือที่มีความโดดเด่นมากมาย ทั้งในแง่เจดีย์ปูนปั้น ซึ่งต่างได้รับอิทธิพลมาจากศิลปกรรมหลายรูปแบบ ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นโบราณสถานที่มี “ปูนปั้น” งดงามที่สุดในยุคต้นล้านนา ภายในบริเวณวัดป่าสัก ประกอบไปด้วยพระวิหารที่สร้างจากศิลาแลงและพระเจดีย์ทรงปราสาทแบบล้านนา 5 ยอดที่ผสมผสานศิลปะหริภุญชัย สุโขทัย พุกาม และจีน เข้าไว้ด้วยกัน โดยยังมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์และสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระพุทธรูปปางเปิดโลก ที่ประดิษฐานอยู่ในซุ้มจระนำของเจดีย์วัดป่าสัก ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจและจุดเริ่มต้นให้ทีมภัณฑารักษ์ปรับใช้เป็นธีมหลักของมหกรรมไทยแลนด์ เบียนนาเล่ ครั้งนี้อีกด้วย
____
ความงดงามของวัดป่าสัก ได้รับการยกย่องโดย ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินนามอุโฆษชาวเชียงราย ผู้กล่าวว่า วัดป่าสักเป็นงานต้นแบบของล้านนาคลาสสิค หากดินแดนนี้เกิดแผ่นดินไหว ทุกสิ่งอย่างล่มสลาย เหลือวัดป่าสักเพียงแห่งเดียว ศิลปวัฒนธรรมล้านนาก็อยู่รอด
____
ศิลปิน : จิตติ เกษมกิจวัฒนา, ธวัชชัย พันธุ์สวัสดิ์

____
เครดิตภาพ : ชนินทร์ ผาสุริวงษ์
____
แหล่งอ้างอิง :
https://www.silpa-mag.com/art/article_111266